โลกฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ คำนี้เราได้ยินมานาน แต่ก็ยากจะเชื่อจริง ๆ สำหรับการย้ายทีมของ ลิโอเนล เมสซี่ นักเตะอันดับ 1 ของโลกที่ย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า เมสซี่ กับ บาร์ซ่า น่าจะเป็นเนื้อเดียวกันจนแทบแยกกันไม่ออกมานานเกิน 10 ปี ในวันที่เขาแถลงการณ์ “ลาจาก” คำพูดและภาษากายของ เมสซี่ บอกอย่างชัดเจนว่า หากเรื่องทั้งหมดนี้มันขึ้นอยู่กับเขา … เขาจะไม่มีทางย้ายจาก บาร์เซโลน่า แน่นอน ดังนั้นหากไม่ใช่เมสซี่ที่ผลักดันให้เกิดการย้ายทีมครั้งประวัติศาสร์ครั้งนี้ เหมือนเมื่อปี 2020 ที่เจ้าตัวส่ง “บูโรแฟกซ์” ขอย้ายทีมเอง แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ ใครกันล่ะที่ทำให้สัญลักษณ์ของสโมสรคนนี้ต้องย้ายออกไปในปี 2021 ทั้งที่เจ้าตัวอยากอยู่ ?
ช่วงสองปีหลังทีม บาร์เซโลน่า มีการบริหารงานที่ผิดพลาดมากมาย จากทีมที่เพียบพร้อมทุก ๆ ด้าน กลายมาเป็นทีมที่ต้องดิ้นรนหาเงินชำระหนี้ หลายอย่างที่ผ่านมาใช้เงินแก้ปัญหา โดยเฉพาะการทุ่มเงินซื้อนักเตะแพง ๆ แต่ผลงานสวนทางกับราคาค่าตัว แถมยังต้องจ่ายค่าเหนื่อยในทีม ที่นักเตะแต่ละคนก็รับกันสูง ๆ ทั้งนั้น และอีกเรื่องคือ การตั้งทีมไว้คอยปั้นกระแสในโลกโซเซียล มีสื่อในสเปนรายงานว่า ปัจจุบันทีม บาร์เซโลน่า มีหนี้สินรวมไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านยูโร เมสซี่ เคยส่งแฟกซ์เพื่อขอยกเลิกสัญญามาแล้วเมื่อปี 2020 แต่ถูกหลายฝ่ายยับยั้งดึงเรื่องเอาไว้ ประกอบกับเหตุการณ์โรคระบาด โควิด 19 จึงยังไม่เหมาะสมแก่การย้ายทีม
สำหรับกฎของสมาคมฟุตบอลสเปน มีอยู่หนึ่งข้อที่ระบุว่า ค่าจ้างนักเตะรวมแล้วจะต้องน้อยกว่ากำไรรายได้ของสโมสรฯ เพื่อป้องกันความเสียหายในระบบการเงิน และเรื่องนี้มันส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าเหนื่อยของ เมสซี่ เพราะสัญญาของเขาหมดลงเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา และในสัญญาใหม่ เมสซี่ ยอมลดค่าเหนื่อยของตัวเองลงถึงกว่า 50 % จากเดิมที่รับอยู่ 45 ล้านยูโรต่อปี เหลือเพียงแค่ 20 ล้านยูโรต่อปี และมีระยะสัญญา 5 ปี
แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะไม่ใช่แค่ตัวของ เมสซี่ คนเดียวที่ค่าเหนื่อยสูง ยังมีคนอื่น ๆ อีก 6-7 คนในทีมที่ค่าเหนื่อยสูงมาก เมื่อลดค่าเหนื่อย เมสซี่ เพียงแค่คนเดียวจึงเป็นการแก้ปัญหาไม่ได้ สโมสรฯ ได้พยายามปล่อยยืม ปล่อยขาย นักเตะหลายคนออกไป แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะเมื่อได้ยินตัวเลขค่าเหนื่อยต่อสัปดาห์แล้ว ก็เลิกสนใจทันที แม้จะมีการช่วยจ่ายให้ครึ่งหนึ่งแล้วก็ยังสูงอยู่ดี จนทางออกสุดท้ายคือ สโมสรฯ ต้องยอมเอาหุ้นออกขาย เพื่อหาเงินปลดหนี้ที่เวลาก็กระชั้นชิดเข้ามาเรื่อย ๆ
ในวันแถลงข่าวอำลาของ เมสซี่ นักข่าวพยายามถามถึงเรื่องที่สโมสรฯ ไม่สามารถต่อสัญญาให้ได้ แม้จะมีการลดค่าเหนื่อยแล้วก็ตามนั้น เป็นเพราะผู้บริหารของ ลาลีก้า หรือเปล่า เพราะก่อนหน้ามันมีข่าวทำนองว่า ทางสมาคมฯ ไม่เห็นด้วย เพราะยังไงก็เป็นการเพิ่มตัวเลขหนี้ขึ้นไปอีก คำถามนี้ เมสซี่ บอกว่าเขาเองก็ไม่แน่ใจเรื่องนั้น ยังมีข้อสันนิฐานอีกว่า เป็นเพราะบอร์ดบริหารของทีมหรือเปล่า ที่เสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการต่อสัญญา จึงมีการหักหลังกันนาทีสุดท้าย
สาเหตุอีกข้อหนึ่งที่สื่อวิเคราะห์คือ ประธานสโมสรฯ นั่นแหละตัวดี ต่อหน้าสื่อก็พูดทำนองว่าจะพยายามรั้งตัว เมสซี่ ไว้ให้ได้ เพราะต้องการรักษาคะแนนเสียง รักษาเก้าอี้ตัวเองไว้ แต่พอปฏิบัติจริงกลับเป็นอีกแบบ เรื่องนี้ก็ออกได้สองทาง เพราะก่อนหน้าที่เขาเริ่มเข้ามาบริหารทีมนั้น มันก็เริ่มเละแล้ว การขายหุ้นให้ส่วนกลางเพื่อกระจายให้เท่ากับสโมสรฯ อื่นๆ จะทำให้รายได้สโมสรฯ หดหายไปมาก กับการรั้งนักเตะเพียงแค่คนเดียว มันอาจจะดูได้ไม่คุ้มเสีย มุมมองแบบนี้ก็มีเหตุผล สโมสรฯ เลือกผลประโยชน์ส่วนรวมไว้ก่อนสิ่งที่เสียดายที่สุดคือ ไม่ได้เห็น เมสซี่ ในฐานะ One club man แขวนสตั๊ดกับบาร์ซ่า แต่ในเมื่อเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นแล้ว ต่างฝ่ายต่างต้องเดินหน้าต่อไป เราในฐานะแฟนบอลก็จะเชียร์เมสซี่เสมอ ไม่ว่าเขาจะไปอยู่ทีมไหน เชียร์บาร์ซ่าเพราะเมสซี่ รักฟุตบอลเพราะ เมสซี่ กันครับ