ชาบี อลอนโซ่ กลายเป็นกุนซือรุ่นใหม่ที่ได้รับคำชมจาก UFABET มากที่สุดหลังจากพาไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คว้าแชมป์บุนเดสลีกาแบบที่ฤดูกาลยังไม่ทันจบ พร้อมทั้งยังเป็นแชมป์บอลถ้วยเยอรมันอีก 1 รายการอย่าง เดเอฟเบ โพคาล และเป็นรองแชมป์ฟุตบอลยูโรป้า ลีก อีกต่างหาก แน่นอนว่าคนๆ เดียวไม่สามารถจัดการทุกเรื่องให้ออกมาได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้และนี่เราจะนำเสนอเรื่องราวของ 3 คนสำคัญที่เป็นลมใต้ปีกของ อลอนโซ่ พวกเขาคือใคร ทำอะไรบ้าง ติดตามได้ที่นี่เว็บไซต์รับพนันบอลออนไลน์ บุนเดสลีก้า เยอรมันและลีกชั้นนำอื่นๆ ทั่วโลก
วางโครงการและวิสัยทัศน์ สโมสรฟุตบอลในยุคปัจจุบันมักจะมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างเป็นสัดส่วน ดูแลงานกันเฉพาะทาง ไล่เรียงมาจากตำแหน่งสูงสุดอย่างเจ้าของสโมสร ต่อยอดลงมาที่ซีอีโอที่เป็นผู้บริหารองค์กร จากนั้นก็จะมีคนที่ถนัดเรื่องฟุตบอล เรื่องการตลาดแยกย่อยกันออกไป ซึ่งที่ เลเวอร์คูเซ่น ก็มีโครงสร้างแบบนี้เช่นกัน พวกเขาคือสโมสรเดียวในประเทศเยอรมนีที่สามารถเอาชื่อขององค์กรมาใส่ในชื่อของสโมสรได้
เนื่องจากสโมสรได้ก่อตั้งก่อนที่สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมันหรือ เดเอฟเบ จะออกกฎที่ทำให้สโมสรฟุตบอลเป็นเจ้าของโดยแฟนบอล ซึ่งถ้าไล่เรียงคนที่ทำงานและมีส่วนเกี่ยวข้องกับงานที่อลอนโซ่ ทำสำหรับงานในแผนกของ คนนั่งโต๊ะ หลักๆ แล้วจะมีอยู่ 2 คนและพวกเขาคือ คนที่ตัดสินใจนำพาชาบี อลอนโซ่ เข้ามารับงานที่นี่ครั้งแรก ซึ่ง ณ เวลานั้นฤดูกาล 2022-23 เลเวอร์คูเซ่น กำลังจมอยู่ในท้ายตารางของ บุนเดสลีกาและ 2 คนที่ตัดสินใจเลือกเขามาคือ
เฟร์นานโด คาร์โร่ ซีอีโอฝ่ายบริหารกิจการฟุตบอล และไซม่อน โรลเฟส อดีตนักเตะของ เลเวอร์คูเซ่น ที่ผันตัวมารับงานในตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬา ซึ่งเนื้องานหลักๆ คือเลือกคนที่ถูกต้องเข้ามาอยูในทีมไม่ว่าจะเป็นนักเตะ ทีมงานฝ่ายต่างๆ หรือแม้กระทั่ง “เฮดโค้ช” อย่างชาบี อลอนโซ่ “งานของผมคือการเลือกบุคลากรที่กระหายความสำเร็จเข้ามาอยู่ในสโมสร ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คนที่กระหายที่ผมหมายถึงคือ แทบทุกตำแหน่ง
ผมเจาะจงไปตั้งแต่นักเตะและโค้ช ซึ่งถือเป็นอันดับแรกๆ ในแง่ของควาสำคัญ” “นอกจากนี้ก็มีคนฝ่ายบริหาร พนักงานส่วนต่างๆ ของทีมทุกคน ทุกคนจะเหมือนน็อตตัวเล็กๆ ที่หมุนด้วยตัวเองและทำให้เครื่องจักรทั้งเครื่องเดินหน้าไปแบบที่มีโอกาสประสบความสำเร็จ” คาร์โร่ กล่าว ซึ่งเขานี่แหละที่เป็นคนเลือกคนอย่าง ไซม่อน โรลเฟส เข้ามาดูเรื่องการเลือกโค้ชและนักเตะโดยเฉพาะในเดือนตุลาคม 2022 ทั้งสองคนต้องจับเข่าคุยกัน
เนื่องจากผลงานของของทีมที่นำทัพโดย เคร์ราร์โด เซโออาเน่ พาทีมตกอยู่อันดับบ๊วยของลีกช่วงต้นฤดูกาล 2022-23 โดยที่นักเตะส่วนใหญ่ก็เป็นนักเตะที่อยู่ในชุดแชมป์ บุนเดสลีกา ฤดูกาลนี้แหละ การปลดโค้ชครั้งนั้นทั้งสองคนบอกว่าพวกเขาพยายามเลือกมองหากุนซือที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีแนวคิด และวิธีการเล่นที่ชัดเจน ซึ่งสุดท้ายก็มาลองกับโค้ชที่ยังไม่เคยคุมสโมสรจริงจังอย่าง ชาบี อลอนโซ่ โดยก่อนมาเยอรมันเขารับงานเป็นโค้ชทีม เรอัล โซเซียดาด เบ ลงเล่นในศึกดิวิชั่น 3 ของสเปนเท่านั้น
แต่หลายองค์ประกอบทั้งเรื่องการเติบโตมากับยอดโค้ชมากมายทั้ง ราฟา เบนิเตซ คาร์โล อันเชล็อตติ โชเซ่ มูรินโญ่ และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า รวมถึงเรื่องวิธีของทีมที่ โรลเฟส ให้คำจำกัดความว่า “บอลสมัยใหม่” “ตอนที่เราเลือกผู้จัดการทีม มันละเอียดกว่าการใช้คำว่า “คาดเดา” มากๆ เราเห็นวิธีการเล่นฟุตบอลของเขาจากทีมสำรองของ เรอัล โซเซียดาด ซึ่งเป็นทีมที่รูปแบบการเล่นน่าประทับใจมาก ปรัชญาชัดเจนในเรื่องของการคอนโทรลเกม และการเข้าทำที่ไดเร็กต์รวดเร็ว”
วิธีการเล่นแบบที่เขาทำเหมาะกับสไตล์ของนักเตะที่เรามีอยู่ เราจะเป็นต้องหาสิ่งที่สอดคล้องกันให้ได้เพื่อให้นักเตะและโค้ชมีเคมีที่เข้ากันและพวกเราก็เลือก ชาบี คาแร็คเตอร์ของเขายอดเยี่ยมมากจริงๆ การทำงานละเอียดยิบ พิถีพิถันในแต่ละจุด โค้ชที่ดีสำหรับผมคือโค้ชที่เอาความกดดันออกจากบ่าของนักเตะได้ก่อนที่พวกเขาจะลงสนามและเขาเป็นคนนั้น โรลเฟส กล่าว โรลเฟส กับ คาร์โร่ เป็น 2 คนที่ต่อสายตรงกันสำหรับคนนั่งโต๊ะ
พวกเขาจะสุมหัวคุยกันแทบทุกเรื่องไม่ใช่แค่เรื่องการเสริมทัพ แต่รวมถึงเรื่องการตลาด การพยายามหาทางขายตั๋วปีให้มากขึ้น การยกระดับสโมสรแบบที่เป็นรูปธรรมตลอดจนการวางโปรเจ็กต์ระยะยาว การทำงานของคนนั่งโต๊ะ 2 คนนี้มีส่วนอย่างมากให้งานของ อลอนโซ่ ออกมาง่ายและสะดวกขึ้น เนื่องจากทั้ง โรลเฟส และ คาร์โร่ ทำเข้างานเข้าขารู้ใจ ทั้ง 2 คนต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรออกไป เนื่องจากชอบในความท้าทายที่กำลังรออยู่
ขณะที่ โรลเฟส ก็สรุปการทำงานของพวกเขาทั้ง 2 คนว่า เป็นเหมือนหยินกับหยาง คนหนึ่งมุทะลุมองไกล อีกคนใจเย็นพิจารณาอย่างละเอียดในทุกๆ ก้าว ซึ่งคุณสมบัตินี้มันลงตัวในการทำงานร่วมกัน ทำให้ต่างคนต่างได้เห็นมุมมองอีกแบบ ซึ่งผลประโยชน์มากที่สุดคือสโมสรเอง “เฟร์นานโด เป็นคนหุนหันพลันแล่น แต่ผมจะใจเย็นกว่านิสัยของเราทั้งคู่เป็นข้อได้เปรียบในบางกรณีที่แตกต่างกัน แต่เชื่อเถอะว่าถ้าเราผนึกกำลังกันสโมสรจะได้ประโยชน์จากทั้งสองสิ่งแน่นอน”
โรลเฟส ว่าแบบนั้นนี่คือส่วนของงานนั่งโต๊ะ สิ่งที่ทั้งคู่คุยกันจะถูกถ่ายทอดมายัง โรลเฟส คนที่ทำงานร่วมกับ อลอนโซ่ โดยตรงเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดหากชาบี อลอนโซ่ อยากได้ใคร อยากซื้อนักเตะคนไหนมาเสริมทัพ ตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของ โรลเฟส กับ อลอนโซ่ โดยตรงทั้งสองคนจะสุมหัวกันเพื่อให้ได้นักเตะที่ออกมาตรงสเป็กภายในงบที่จำกัดมากที่สุด ตัวของ โรลเฟส เดิมทีก่อนรับตำแหน่งนี้เขาเป็นแค่หัวหน้าทีมสรรหา
โดยมี รูดี้ โฟลเลอร์ ตำนานของทีมเป็นผู้อำนวยการกีฬาจนกระทั่งในปี 2022 โฟลเลอร์ ลาออก โรลเฟส ก็ถูกดันขึ้นมานั่งเก้าอี้สำคัญตัวนี้ ซึ่งในช่วงที่เขาเป็นทีมสรรหา นักเตะตัวหลักของทีมชุดปัจจุบันหลายคนก็มาจากการผ่านสายตาของเขา แน่นอนว่าเลเวอร์คูเซ่นไม่ใช่ทีมที่รวยที่สุดดังนั้นการซื้อตัวแต่ละครั้งพวกเขาอาจจะไม่ได้นักเตะเกรดที่ดีที่สุดในตำแหน่งนั้นๆ แต่การพิจารณาระหว่างอลอนโซ่ และ โรลเฟส จะหากันตรงกลางนั่นคือเป็นนักเตะที่มีประโยชน์ต่อทีมและอยู่ภายใต้ราคาและค่าจ้างที่เหมาะสม
พวกเขาไม่ได้เลือกคนที่เก่งที่สุด แต่เลือกคนที่เหมาะสมกับทีมที่สุดตามที่ข้อจำกัดมี เลเวอร์คูเซ่น มีกลุ่มผู้เล่นหมุนเวียนกันได้ตลอดจนถึงปลายทางที่พวกเขาเป็นแชมป์ พวกเขามีนักเตะหลากหลายแบบให้เลือกใช้งานเกมไหนต้องใช้นักเตะมีประสบการณ์ เกมไหนต้องใช้นักเตะเลือดใหม่ไฟแรง เรียกได้ว่าทีมชุดนี้ถูกวิเคราะห์กันจนลงตัวแล้วก่อนจะมาสร้างประวัติศาสตร์ให้โลกลูกหนังได้เห็นนี่คือ คนหลังบ้านที่คอยเติมอาวุธให้กับอลอนโซ่ เอาไปลุยกับทีมต่างๆ เมื่อลงสนาม