“เบียร์กับบอล” ในเยอรมันเกี่ยวและใกล้ชิดกันแค่ไหน? วันนี้ M9BET มาติดตามเรื่องชวนหัวนี้กันครับ แต่บอกก่อนว่าอาจจะไม่ตลกสำหรับคนเยอรมันทำไมการไล่สาดเบียร์ในวันรับแชมป์ลีกหรือฟุตบอลถ้วยของเยอรมัน จึงเป็นปัญหาระดับชาติ ? การดื่มเบียร์และฟุตบอลเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะที่เยอรมันประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งเบียร์ กินกันแทนน้ำเปล่าเลยอะไรประมาณนั้น แต่ในเรื่องของฟุตบอลประเทศนี้มันมีเบียร์เข้ามาเกี่ยวตลอด โดยเฉพาะฉากที่ทุกคนต้องได้เห็นในวันฉลองแชมป์ฯ นั่นคือฉากที่นักเตะทุกคนจะถือแก้วเบียร์วิ่งสาดใส่กันอย่างเมามัน
เอาล่ะเราลองมาดูดีกว่าว่าวัฒนธรรมนี้จุดกำเนิดมันมาจากไหน มันพีกขนาดไหน? และทำไมวันนี้พวกเขาจึงต้องการจะหยุดวัฒนธรรมนี้ ! เบียร์ กับ ฟุตบอล เริ่มแรกเลยเราขอเริ่มด้วยคำถามที่จะทำให้คุณเห็นภาพรวมของบทความนี้ชัดยิ่งขึ้น นั่นคือที่ประเทศเยอรมันนี แน่นอนว่าเรื่องอาหารและเครื่องดื่มนั้นเกิดขึ้นก่อนฟุตบอล โดยเฉพาะเครื่องดื่มอย่างเบียร์ที่ถือกำเนิดมานานกว่า 500 ปีแล้ว ส่วนฟุตบอลนั้นคาดว่ามาตามหลัง ซึ่งใช้เวลาราวๆ 200 -300 ปีเลยทีเดียว
ประการแรกประเทศเยอรมันนีไม่ใช่ชาติที่เป็นต้นกำเนิดในการผลิตเบียร์ แม้หลายคนจะไม่คิดแบบนั้น แต่จริงๆ แล้วเบียร์เป็นเครื่องดื่มมึนเมาที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ มันถือกำเนิดขึ้นกว่า 9,500 ปีก่อน เบียร์เกิดขึ้นจากการหมักดองผลิตผลทางการเกษตรของมนุษย์คนยุคนั้น โดยได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ของเมโสโปเตเมียและอียิปต์โบราณ แต่ถึงแม้จะไม่ได้เป็นต้นกำเนิดของเครื่องดื่มยอดฮิตที่สุด แต่ติดอันดับ 3ของโลก (รองจากน้ำดื่ม และน้ำชา)
แต่เยอรมันก็เป็นประเทศแรกที่มีการกลั่นเบียร์ออกมาได้สมบูรณ์แบบที่สุด โดยมีกฎการใช้ส่วนผสมห้ามเกิน 4 สิ่ง โดยมีชื่อว่า “กฎบริสุทธิ์” (The Purity Law) และสิ่งที่ถูกเลือก 4 อย่างนั้นได้แก่ น้ำ, มอลต์, ฮ็อป และยีสต์ โดยปกติแล้วเบียร์ที่เยอรมันนั้นจะมีราคาที่ถูกมาก หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “ที่เยอรมัน เบียร์ถูกกว่าน้ำเปล่า” เหตุผลเนื่องจากรัฐบาลเขามีสาธารณูประโภคที่ทั่วถึงเช่น น้ำ “น้ำประปา” ที่สะอาดและดื่มได้เลยทำให้สามารถเอาไปใช้เป็นส่วนผสมในการหมักเบียร์ได้
และประชาชนทั่วไปก็สามารถหาดื่มน้ำเหล่านี้ได้ตามก็อกสวนสาธารณะ ผู้ผลิตเบียร์ในเยอรมันตอนนี้ยังปฏิบัติตามกฎบริสุทธิ์นี้อย่างเคร่งครัดมาจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือสาเหตุที่เบียร์ของเยอรมันได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งด้วยความเป็นเบียร์ที่มีคุณภาพ อุตสาหกรรมเบียร์ของเยอรมันก็เติบโตเรื่อยมาและการเติบโตดังกล่าว ก็มาจากการบริโภคในประเทศเป็นหลัก ดูได้จากการที่คนเยอรมันใช้จ่ายสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อปีมากที่สุดในโลก
โดยจ่ายประมาณ 60,000 บาทต่อคนต่อปี และมีปริมาณการดื่มเฉลี่ยมากถึง 130 ลิตรต่อคนต่อปี (ไทย อยู่ที่ 45 ลิตรต่อ คน/ปี) และมีโรงกลั่นเบียร์เชิงอุตสาหกรรมถึง 1,500 แห่ง ผลิตเบียร์ออกมาเกือบ 6,000 ยี่ห้อ เมื่อมันมีเงินหมุนเวียนมากขนาดนี้ จะมีอะไรดีไปกว่าการสร้างตัวตนให้โลกได้เห็นและรู้จักของแต่ละแบรนด์ ได้ดีกว่าการเอาไปแปะบนเสื้อหรือสนับสนุนทีมฟุตบอล ซึ่งถือเป็นอีกของขึ้นชื่อของประเทศเยอรมัน
ดังนั้นแบรนด์ใหญ่แบรนด์เล็กก็หาทีมสนับสนุนกันมากมาย ไม่เว้นแม้กระทั่งกับทีมชาติเยอรมันอันเกรียงไกร ก็ยังมีเบียร์แบรนด์ที่ชื่อว่า Bitburger เข้ามาสนับสนุนตั้งแต่ปี 1992 จนถึงปี 2017 ส่วนสโมสรใหญ่อย่าง บาเยิร์น มิวนิค และ ดอร์ทมุนด์ หรือแม้แต่ เลเวอร์คูเซ่น เจ้าของแชมป์ลีกบุนเดสลีก้าปีนี้ ก็มีแบรนด์เบียร์เจ้าใหญ่ที่จับมือสนับสนุนเช่นกัน คำถามต่อมาคือ ผู้ชมอย่างเราๆ สังเกตบ้างหรือเปล่าว่าเบียร์กับฟุตบอลเยอรมัน เริ่มจะถูกแยกออกจากกันมากขึ้น แบรนด์เบียร์ดังๆ
ทำไมมักจะออกมาโชว์ตัวต่อหน้าสื่อแค่ตอนฉลองแชมป์? ทั้งที่อุตสาหกรรมเบียร์ในเยอรมันทำเงินได้มากมาย ทำไมจึงไม่เห็นแบรนด์เบียร์แบรนด์ไหนมาอยู่บนหน้าอกเสื้อสโมสรบ้างเลย แม้กระทั่งในทีมชาติเยอรมัน พวกเขาก็ยกเลิกผู้สนับสนุนที่เป็นเบียร์ออกทั้งๆ ที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 25 ปี เรื่องนี้มันเกี่ยวกับการฉลองด้วยการเทเบียร์ หรือไล่สาดเบียร์ใส่กันแบบที่เราเห็นกันในทุกวันนี้ด้วย ห่างกันบ้างก็ดี อย่างที่บอกว่าเบียร์กับฟุตบอลเยอรมันอยู่คู่กันมานานโข
นานจนพวกเราก็จำความไม่ได้ และมองเป็นของคู่กันไปแล้ว แต่จริงๆ เบียร์ นั้นเป็นหนึ่งในสปอนเซอร์ที่ทางฟุตบอลเยอรมันอยากจะให้ออกห่างจากฟุตบอลมากที่สุดเช่นกัน จริงอยู่ที่ทุกสโมสรในบุนเดสลีกา 1 หรือลีกา 2 ล้วนแต่ได้รับการสนับสนุนจากโรงเบียร์ต่างๆ แต่กลับไม่มีทีมไหนเอาแบรนด์เบียร์ขึ้นที่หน้าอกเสื้อ เนื่องจากในช่วงหลังมีนโยบายที่ชื่อว่า “Action Alliance to Enjoy Alcohol-free Sport”
ซึ่งว่าด้วยการดูฟุตบอลโดยห่างไกลจาก แอลกอฮอล์ แคมเปญดังกล่าวเริ่มรันมาตั้งแต่ช่วงปี 2010 และได้รับการผลักดันมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงฟุตบอลจะหนีเบียร์ไม่ออกก็จริง แต่ทางสมาคมฟุตอบอลเยอรมันนี (DFB) ต้องการสร้างระยะห่างให้มากขึ้น ไม่อยากให้เป็นเนื้อเดียวกันมากจนเกินไป ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพของประชากรในประเทศ และปัญหาเรื่องสาธารณสุขที่มีผู้ป่วยที่เกิดปัญหาจากเบียร์มากขึ้น
สื่อที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มมึนเมาของทวีปยุโรประบุเรื่องดังกล่าวว่า แอลกอฮอล์สร้างความเสียหายอย่างมากในเยอรมัน โดยมีผู้คนกว่า 1.6 ล้านคน ติดแอลกอฮอล์ (จากประชากร 83.8 ล้านคน) และทุกๆ ปี จะมีคนเสียชีวิตจากเครื่องดื่มเหล่านี้อีกปีละ 74,000 คน ด้วยสาเหตุจากอุบัติเหตุ ความรุนแรง การถูกทำร้าย และการข่มขืน ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของแอลกอฮอล์ และสิ่งนี้มันสะท้อนไปถึงตัวเลขในระบบเศรษฐกิจของประเทศเยอรมัน ที่ต้องเสียหายถึง 57,000 ล้านยูโร
ในสารคดีเรื่อง Fu?ball und Bier: Wer verdient wirklich? (ฟุตบอลและเบียร์ ใครทำเงินได้จริงกันแน่?) พาย้อนไปดูเรื่องราวของปัญหาแอลกอฮอล์ที่เริ่มต้นจากสนามฟุตบอล พวกเขาพาไปหาแฟนๆ ที่เป็นโรคติดแอลกอฮอล์ตามคลับท้องถิ่น ซึ่งเป็นที่ดูบอลของแฟนๆ ของทีมต่างๆ ซึ่งก็ได้สะท้อนให้เห็นว่าแม้ฟุตบอลจะไม่ใช่ปัญหาของทั้งหมด แต่ก็เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนดื่มเบียร์ หรือเข้าใกล้โรคติดแอลกอฮอล์มากขึ้น
เรื่องดังกล่าวถูกผลักดันหนักมาจนถึงขั้นที่ DFB ต้องยกเลิกผู้สนับสนุนที่เป็นแบรนด์เบียร์ทั้งหมดจากทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่เพื่อทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ซึ่งหลังจากหมดสัญญากับ Bitburger ในปี 2019 พวกเขาก็ไม่มีผู้สนับสนุนที่เป็นแบรนด์เบียร์อีกเลย แม้ส่วนนี้จะทำให้ เดเอฟเบ สูญเสียรายได้เข้ากระเป๋าถึงปีละกว่า 10 ล้านยูโรเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้ก็คือสาระดีๆ เกี่ยวกับฟุตบอลที่ทีมงาน M9BET หรือชื่อเดิมคือ M8BET นำมาฝากสมาชิกและผู้สนใจทุกท่านให้ได้รับรู้กัน
แม้ว่าช่วงนี้ฟุตบอลลีกต่างๆ กำลังอยู่ในช่วงปิดฤดูกาล แต่ก็มีฟุตบอลทัวร์นาเม้นท์ใหญ่อย่างฟุตบอลยูโร หรือฟุตบอลถ้วยชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป มาให้ได้เล่นวางเดิมพันกันแบบสดๆ ทุกคู่ ทุกสนาม และเรายังเหมือนเดิมทุกอย่าง แค่เปลี่ยนชื่อไปนิดหน่อยเท่านนั้นเอง สมาชิกและผู้สนใจท่านใดอยากแทงบอลก็ติดต่อเว็บไซต์เราที่ เบอร์เดิม ไลน์เดิม บัญชีเดิมกันนะครับ