ริชาร์ด ดันน์ มนุษย์โชคร้ายผู้ยิงเข้าประตูตัวเองมากที่สุดตลอดกาล พรีเมียร์ลีก

ข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล

ถ้าคุณพิมพ์ชื่อ RICHARD DUNNE (ริชาร์ด ดันน์) ลงใน GOOGLE คุณจะพบว่าคีย์เวิร์ดแรกที่ตามหลังชื่อของเขาคือ OWN GOALS (ยิงเข้าประตูตัวเอง) สาเหตุเพราะเขาเป็นเจ้าของสถิติยิงประตูตัวเองมาที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก 10 ลูกเน้น ๆ นำเดี่ยวแบบไม่มีใครเข้าใกล้ และนั่นทำให้ใครหลายคนมองเขาในแง่มุมของความตลกเฟอะฟะ หากเอ่ยชื่อของเขาขึ้นมา อย่างไรก็ตามคนเราก็เหมือนเหรียญที่มี 2 ด้าน หากด้านหนึ่ง ดันน์ เป็นจอมทำลายตาข่ายในฝันของทีมฝั่งตรงข้าม แล้วเหรียญอีกฝั่งในตัวของเขาล่ะคืออะไร ? มาติดตามหลายเรื่องที่หลายคนไม่เคยรู้เกี่ยวกับเขากันครับ

หากนึกถึงกองหลังสมัยใหม่ยกตัวอย่าง เช่น เวอร์จิน ฟานไดร์ ด้วยคุณสมบัติรูปปร่างสูงใหญ่ แข็งแกร่ง ทางบอลดี เปิดบอลยาวแม่น และสั่งการกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมได้ นี่คือผู้เล่นสมัยใหม่ที่มีส่วนพาทีมประสบความสำเร็จได้ แต่กับผู้เล่นกองหลังแบบสมัยก่อน หรือเล่นบอลแบบโบราณก็ต้องย้อนไปในยุค 90 ทางบอลไม่ต้องดี ขอรูปร่างใหญ่แข็งแกร่ง ไม่กลัวเจ็บ ใจเต็มร้อย และทำยังไงก็ได้ไม่ให้กองหน้าฝั่งตรงข้ามยิงประตูได้ จะเห็นว่าวิธีการเล่นไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย และนี่เป็นสไตล์ฟุตบอลอังกฤษแท้ ๆ เลยนะ การโยนบอลยาวจากหลังขึ้นไปหน้าเทคนิคไม่เยอะ

ริชาร์ด ดันน์ เป็นผู้เล่นตำแหน่งกองหลัง ที่มีสไตล์การเล่นแบบโบราณ แต่ดันผิดที่ผิดเวลาของยุคสมัยเท่านั้นเอง ถ้าเล่นในสมัยก่อนนี่รับรองได้ว่าจะมีแต่เสียงชื่นชม ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดันและทุ่มเทตอนอยู่กับทีม เอฟเวอร์ตัน ทำให้ทีม แมนฯ ซิตี้ คว้าตัวมาร่วมทีมและที่นี่เขาก็ได้รับบทกัปตันทีมด้วย พรีเมียร์ลีก ยุคปี 2000 เปลี่ยนไปเยอะมันไม่เหมือนกับยุคต้น 90 บริบทฟุตบอลในสนามที่เน้นการคอนโทรลบอลและการเข้าทำเร็ว ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องตัวใหญ่มากมาย เพราะเน้นเชิงเทคนิคมากกว่า

ริชาร์ด ดันน์ ประสบปัญหากับผู้เล่นกองหน้าที่มีความเร็วจัดจ้าน ภาพผลงานของเขาในสนามจึงออกเละเทะไปหน่อย มีสิ่งเดียวที่เขาสามารถเอาชนะได้คือ รูปร่างสูงใหญ่ ทุ่มเทการเล่นเต็มร้อยทุกครั้ง แต่มันก็ไม่พอเอาชนะคู่แข่งได้ ยุคนั้นทีม แมนฯ ซิตี้ ยังไม่ได้เล่นเกมรุกเป็นหลัก และไม่ได้แข็งแกร่งทุกตำแหน่งอย่างทุกวันนี้ การต้องเล่นเกมรับและเขาเป็นตัวกองหลังคนสุดท้าย นั่นจึงเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมากมาย จึงเป็นที่มาของสถิติยิงเข้าประตูตัวเองมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก

คนเราก็เหมือนเหรียญที่มี 2 ด้าน ด้านหนึ่ง ดันน์ ก็เป็นที่รักของเพื่อน ๆ ในห้องแต่งตัว และแฟนบอลก็ชื่นชมตัวเขามากในการทุ่มเทเพื่อทีม แต่เขาก็มีชีวิตของนักฟุตบอลแบบสมัยเก่าในเวลานอกสนาม ที่ชอบกิน เที่ยว ดื่มผ่อนคลายในผับบาร์ จนช่วงที่ เควิน คีแกน เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม เห็นแล้วไม่ชอบใจในพฤติกรรมแบบนี้ และมีแผนปล่อยตัว ริชาร์ด ดันน์ ออกจากสโมสรฯ แต่หลายคนที่รักเขาได้ออกมาขัดค้านและขอโอกาสให้ ดันน์ ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง จนกระทั้งเขาก็ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนชีวิตกับการชอบดื่มเหล้า ก็สามารถเลิกและกลายเป็นคนไม่ดื่มไปเลย และหันมาสร้างระเบียบวินัยในชีวิตประจำวันใหม่หมด

สำหรับแฟนบอลท้องถิ่นแล้ว พวกเขาจะรักนักเตะคนนั้นอย่างไร้เงื่อนไข ถ้านักเตะทุ่มเทให้สโมสรฯ แบบเต็มร้อย แม้ว่าผลงานจะออกมาดีหรือไม่ก็ตาม เพราะพวกเขามองว่านี่คือคนที่พยายามทำงานให้กับทีม ริชาร์ด ดันน์ เคยกล่าวว่าตลอดชีวิตการเล่นฟุตบอล เขาเคยสกัดเคลียบอลได้นับครั้งไม่ถ้วน แต่โชคร้ายที่มี 10 ลูกมันดันเข้าประตูตัวเอง เขายอมรับว่ามันเป็นฝันร้ายพอสมควร หลังจากออกจากทีม แมนฯ ซิตี้ เขาก็ย้ายไปอยู่กับทีม แอสตัน วิลล่า และก็ได้รับบทสวมปลอกแขนกัปตันทีม และมีช่วงปลายชีวิตการค้าแข้งกับสโมสร คิวพีอาร์ เขาก็เป็นกัปตันทีมเช่นกัน และมีส่วนช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นสู่ พรีเมียร์ลีก ด้วย กับทีมชาติไอแลนด์เขาก็เป็นกัปตันทีมเช่นกันคนหนึ่งมีสองด้านทั้งด้านเก่งและไม่เก่ง แต่เขาก็สามารถทำประโยชน์ได้ ในส่วนที่เหมาะสมกับเขา ซึ่งหากเทียบกับคนเก่งอื่น ๆ ก็ไม่สามารถมาทำได้ดีอย่างเขาเช่นกัน เพราะฉะนั้นทุกคนไม่ได้แย่ไปหมดทุกเรื่องครับ