ไม่โม้ไม่มัน เหตุใดแฟนบอลอังกฤษถึงมั่นใจว่าจะเป็น “แชมป์” ทั้ง ๆ ที่ยังไม่แข่ง

ข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอล

แฟนบอลอังกฤษบอกว่า ชาติของตนคือตัวเต็งในทุกทัวร์นาเมนต์ฟุตบอล, ประกาศกร้าวในโลกโซเชียลถึงความเก่งกาจทั้งที่ไร้แชมป์มาเกือบ 60 ปี และขอวันหยุดฉลองแชมป์ทั้ง ๆ ที่เกมนัดชิงชนะเลิศยังไม่แข่ง นี่คือสิ่งที่แฟนบอลอังกฤษทำอยู่เสมอ สิ่งนี้อาจจะทำให้แฟนบอลประเทศต่าง ๆ ชิงชังทีมชาติอังกฤษ พร้อมกับตามแช่งให้พวกเขาเป็นผู้แพ้ และนี่คือสาเหตุที่ชาวอังกฤษยืดอกยอมรับบทบาทนั้น แถมยังภูมิใจในความโม้และโอหังของพวกเขา ติดตามเรื่องราวแฟนบอลอังกฤษ และฟุตบอลทีมชาติอังกฤษได้ครับ

ภาพแฟนบอลอังกฤษที่ยืนถือขวดเบียร์ พูดโม้ อวดไปได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องฟุตบอลที่คุยได้ทั้งวัน ทั้งคืน แม้ฟุตบอลยังไม่เตะ แถมใครพูดขัดหูไม่ได้ด้วยนะ วิญญาณอัศวินโต๊ะกลมเข้าร่างทันที จะว่าไปมันเป็นความสุข เป็นอัตลักษณ์ของพวกเขามานานแล้ว จากรุ่นสู่รุ่น วัฒนธรรมการเชียร์สืบทอดกันมา รวมทั้งคำพูดคำจาด้วย ไม่แปลกที่คนชาติอื่น ๆ ฟังแล้วจะมั่นไส้ครับ แม้กาลเวลาปัจจุบันจะทำให้อะไร ๆ มีความเท่าเทียมกันมากแล้ว แต่กับคนชาติอังกฤษส่วนใหญ่ ก็ยังมักจะยึดติดอยู่กับตัวเองอยู่ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์

ย้อนเวลากลับไปประเทศอังกฤษ ยิ่งใหญ่มากจนได้รับการขนานนามว่า เป็นดินแดนที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน เพราะในยุคที่มีการล่าอาณานิคมมาเป็นดินแดนของตัวเองนั้น ประเทศอังกฤษมีเมืองขึ้นอยู่ทั่วทุกทวีปยังไงครับ มันอาจจะไม่ผิดในสมัยนั้น แต่เวลามันผ่านมาหลายสิบปีแล้ว และการกระทำเช่นนั้น วันนี้ก็ถือว่าไม่ใช่การกระทำของประเทศที่เจริญทุก ๆ ด้านแล้ว แต่กับคนอังกฤษไม่เคยลืมเรื่องยิ่งใหญ่นี้สักที แถมทำตัวเหนือพูดจาทับถมคนชาติอื่น ๆ อยู่ประจำ นี่เป็นสาเหตุหลักที่แฟนบอลอังกฤษไปเชียร์บอลที่ไหน ก็ไม่มีใคร ๆ ชอบ 

คำว่าผู้ดีอังกฤษ มักจะเป็นคำยกย่องของชนชั้นขุนนางสมัยก่อน และจะต้องได้รับการเคารพจากคนที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะพวกทาสแรงงานสมัยนั้น และการที่ตัวเองไปยึดหัวเมืองเขาสะทั่วทุกมุมโลก ก็บังคับให้เขาพูดและใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาสื่อสารหลัก และนี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งว่า ทำไมถึงยกให้ภาษาอังเป็นภาษาสากล หลายเรื่องหลายราวที่คนอังกฤษล่องเรือไปไหน ก็มักจะครอบงำคนท้องถิ่นให้ทำตาม กฎหมาย ศาสนา การเมือง วัฒนธรรมประเพณี แม้กระทั่งเรื่องเกมกีฬา คนอังกฤษก็เป็นจอมเผยแพร่ครับ

โปโรขี่ม้า และ คริคเก็ต เขาถือเป็นกีฬาผู้ดีอังกฤษเลยนะ แต่กีฬาฟุตบอลเป็นของชนชั้นล่าง ๆ เช่น ทหาร พนักงานกะลาสีเรือ ที่เล่นกันในยามว่างจากศึกสงคราม หรือออกเวรยามกันแล้วไม่รู้จะไปไหนก็เตะบอลกัน และพวกลูกเรือก็เหมือนกันระหว่างรอขึ้นของ หรือจอดพักที่ไหน ๆ ก็จะเอาลูกบอลมาเตะเล่นกัน แบบเตะไปทุกที่ที่ตัวเองไปนั่นแหละ จนทำให้ชาวพื้นเมืองเห็นภาพแบบนี้และติดตา โดยเฉพาะพวกเด็ก ๆ นั้นชอบจะขอมาเล่นด้วยเสมอครับ และนี่คือเหตุผลหลักว่า คนอังกฤษยกตัวเองเป็นบิดาแห่งกีฬาฟุตบอลยังไงครับ

คำว่าจะพาฟุตบอลกลับบ้านตอน ยูโร 2020 ก็มาจากความหยิ่งทะนงตรงนี้แหละ และอีกเรื่องที่ทำให้แฟนบอลอังกฤษดูขี้โม้เหลือเกิน ก็มาจากสื่อนี่แหละ BBC คือสื่อประเทศอังกฤษที่มีอายุมากที่สุดในโลก มากกว่าสื่อทางฝั่งอเมริกาเสียอีก และปรัชญาที่สื่ออย่าง BBC ทำกันมาจนปัจจุบันนี้คือ การอวยตัวเองทุก ๆ เรื่อง ยกตัวเองเหนือกว่าคนชาติอื่น ๆ เสนอข่าวด้านที่เป็นประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น นับเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ แฟนบอลอังกฤษหลงตัวเอง อาจจะมีความสุขครับกับมายาภาพตามอุดมคติ แต่ผลกระทบตกอยู่กับนักเตะของตัวเอง เจอความกดดันมากมาย เล่นไม่ดีมีโดนขับไล่ให้พ้นชาติไปเสียเลยก็มีนะ

เรียกว่าบทบาทของแฟนบอลอังกฤษแท้ ๆ นี่ไม่ต้องไปถามหาการเปลี่ยนแปลงหรอกครับ บอกตรง ๆ ว่ายากมาก เพราะเป็นการยึดติดกับตัวกูของกู และทุกเรื่องด้วยนะไม่ใช่แค่การเชียร์ฟุตบอล มีอะไรที่น่าสนใจอีกมากครับ กับบริบทฟุตบอลอังกฤษพูดได้เป็นวัน ๆ ใครสนใจคราวหน้าจะหามานำเสนออีกครับ